
สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย หรือเริ่มคิดที่จะออกกำลังกายอย่างจริงจัง หลายคนน่าจะเคยได้ยินที่คนเขาชอบพูดกันว่า “ออกกำลังกายยิ่งเจ็บ ยิ่งต้องซ้ำ” ฟังแล้วก็แอบไม่แน่ใจ ว่าความเชื่อนี้มันถูกต้องจริงหรือไม่ สรุปแล้วจะต้องพัก หรือจะต้องซ้ำกันแน่ วันนี้เราจะมาขอไขข้อสงสัยให้ทุกคนเองค่ะ!
แท้จริงแล้วความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อที่ไม่ได้ผิดหรือถูกไปซะทั้งหมด เพียงแต่เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า ยิ่งเจ็บ ของเรามันคืออาการ “ปวดล้า” หรืออาการ “บาดเจ็บ” กันแน่?

อาการปวดล้า หรือปวดระบม (Soreness)
คืออาการปวดตึง เมื่อยล้า ระบมที่ตามตัว อาจขึ้นได้จากการออกกำลังกาย เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายหนักสะสม ทั้งยังแบ่งได้อีกเป็น 2 ลักษณะ คือ
- อาการปวดล้าแบบเฉียบพลัน (Acute soreness) เกิดขึ้น ขณะหรือหลังออกกำลังกายทันที สามารถหายได้เองเมื่อพักจากการออกกำลังกาย
- อาการปวดล้าหลังออกกำลัง (Delayed Onset Muscle Soreness : DOMS) เป็นอาการปวดล้าที่เกิดขึ้นภายหลังการออกกำลัง 24 – 72 ชั่วโมง สามารถหายไปเองใน 7-10 วันโดยไม่จำเป็นต้องกินยา
อาการบาดเจ็บ (Injury pain)
ความรู้สึกเจ็บรุนแรง มีอาการปวดแปล๊บๆ จี๊ดๆ เกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณกล้ามเนื้อและข้อต่อ ทั้งขณะและหลังออกกำลังกาย อาการบาดเจ็บลักษณะนี้จะมีอาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการเคลื่อนไหวส่วนที่บาดเจ็บ และไม่หายไปเอง อาจสังเกตุได้ว่าหากมีอาการผิดปกตินานกว่า 2 -3 สัปดาห์ อาจเป็นอาการบาดเจ็บไม่ใช่ปวดล้าธรรมดา รวมทั้งอาจมีอาการบวมแดงร่วมด้วย อาการบาดเจ็บอาจเกิดขึ้นได้จากการออกกำลังที่ไม่ถูกต้อง เช่น การออกกำลังกายผิดท่าทาง อุบัติเหตุ การปะทะในกีฬาบางประเภท ไม่ได้วอล์มร่างกายให้ดีพอก่อนออกกำลัง (Warm up) และไม่ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Cool down) หลังออกกำลังกาย
นพ.อี๊ด ลอประยูร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ และเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การกีฬา ได้อธิบายเกี่ยวกับอาการปวดล้าเอาไว้ว่า เป็นอาการที่สามารถหายไปได้เองโดยไม่จำเป็นต้องหยุดพักหรือทานยา ทั้งยังแนะนำให้ออกกำลังกายเบาๆ ต่อไป การออกกำลังกายแล้วเกิดความปวดเมื่อย หากเลือกที่จะหยุดพักในวันต่อมา รอจนหายแล้วค่อยกลับไปออกกำลังกายใหม่ จะยิ่งทำให้ไม่หาย โดยคุณหมอได้แนะนำวิธีบรรเทาอาการปวดหลังออกกำลังกาย โดยการประคบเย็น และการยืดเหยียด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก