ใครมีปัญหา “ผิวเปลือกส้ม” มารวมกันตรงนี้เลยจ้า แถวต้นขา ต้นแขน และหน้าท้องนี่แหละตัวดีเลย เวลาจะใส่เสื้อผ้าแขนกุดหรือกางเกงขาสั้นทีไร เป็นต้องเสียความมั่นใจทุกที แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้วนะคะ เจอปัญหาต้องแก้จากต้นเหตุ มาดูกันดีกว่าว่าพฤติกรรมแบบไหนที่เชิญชวนเซลลูไลท์ให้กองกันอยู่ที่ร่างเราบ้าง! เซลลูไลท์คืออะไร? เซลลูไลท์ (Cellulite) หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักในนามของ “ผิวเปลือกส้ม” ก็คือ เซลล์ไขมันที่มาสะสมตัวอยู่ที่ชั้นใต้ผิวหนังของเรา ทำให้ผิวของเรามองดูแล้วเหมือนมีรอยย่น คล้ายผิวของเปลือกส้มหรือเปลือกมะกรูด ส่วนที่มักจะเกิดเซลลูไลท์ก็คือ บริเวณต้นขา สะโพก ต้นแขน และหน้าท้อง โดยทั่วไปเรามักจะพบเซลลูไลท์ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ที่น่าสนใจก็คือเซลลูไลท์สามารถพบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน เซลลูไลท์มาจากไหนได้บ้าง? กินอาหารที่ไขมันและน้ำตาลสูง พวกขนม ของทอด ชาไข่มุกทั้งหลายนี่ตัวดีเลย หรืออาหารเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอย่าง ผลไม้บางชนิดก็เรียกเซลลูไลท์ได้เหมือนกัน ซึ่งการที่เราทานน้ำตาลหรืออาหารที่มีไขมันสูงเข้าไป ถ้าหากร่างกายไม่สามารถเผาผลาญและนำพลังงานไปใช้ได้ไม่หมด ก็จะเกิดการสะสมไปอยู่ในรูปของไขมัน และกลายเป็นเซลลูไลท์นั่นเอง อดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก หนึ่งในวิธีลดน้ำหนัก (แบบผิดๆ) ที่หลายคนชอบทำก็คือ การอดอาหาร แม้ว่าน้ำหนักจะลดลงเร็วก็จริง แต่ผลเสียที่ตามมาน่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะการอดอาหารแบบหักโหมอาจเข้าไปรบกวนกลไกของร่างกายทำให้ร่างกายปรับตัวในการเก็บสะสมพลังงานมากกว่าปกติ ทำให้ไขมันส่วนเกินไม่ถูกกำจัดออกและกลายมาเป็นเซลลูไลท์ได้ ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ ในการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกไป ช่วยลดการสะสมของไขมัน ดังนั้นใครที่ไม่ชอบออกกำลังกายก็จะทำให้การเผาผลาญลดลง อีกทั้งยังทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่ดี การกำจัดของเสียทางเลือดและน้ำเหลืองทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ …
สำหรับใครที่ชอบบ่นๆ ว่าชุดทำงานน่าเบื่อแต่งออกมายังไงก็ดูทื่อๆ ไม่สวย บอกเลยว่าปัญหานี้แก้ได้ถ้าเรารู้จักเลือกแมตช์ชุดให้เข้ากับรูปร่าง รู้ว่าจุดไหนต้องเด่น จุดไหนต้องพราง แค่นี้เราก็สามารถเปลี่ยนทุกวันทำงานเป็นรันเวย์ได้! เทคนิคการเลือกแมตช์เสื้อผ้าแบบ YIA เป็นเทคนิคจากแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น ที่มีหลักการง่ายๆ คือการเลือกเสื้อผ้าที่สามารถพรางจุดด้อยและขับเน้นจุดเด่นของเราได้โดยมีรายละเอียด วิธีจำง่ายๆ ตามนี้เลย! แต่งแบบ Y สำหรับคนที่มีร่างกายท่อนบนค่อนข้างใหญ่ เจ้าเนื้อ ท่อนบน : เลือกเสื้อผ้าแบบ oversize หรือเสื้อที่ใหญ่กว่าไซส์ปกติที่ใส่ประจำ ท่อนล่าง : เลือกชิ้นที่มีลักษณะเข้ารูป เพราะที่จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อใส่พอดีตัวตลอดเวลา การเลือกสวมเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าตัว จะสามารถช่วยซ่อนเส้นรอบร่าง หรือ Body line ได้ เมื่อประกอบกับท่อนล่างที่เข้ารูปก็จะช่วยพรางให้รู้สึกว่ารูปร่างเล็กลง แต่งแบบ I สำหรับคนที่มีรูปร่างสมส่วน มั่นใจในรูปร่างและสไตล์ ชิ้นบน : เลือกเสื้อผ้าแบบเข้ารูป ชิ้นล่าง : เลือกแบบเข้ารูป การแต่งตัวแบบเทคนิครูปตัว I เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างสมส่วน เหมาะการใส่เสื้อผ้ารัดรูปจะช่วยขับเน้นรูปร่างของเราให้ดูสง่าและคล่องตัว แต่งแบบ A สำหรับคนที่มีช่วงล่างใหญ่ อยากพรางช่วงสะโพกหรือบั้นท้าย ชิ้นบน : เลือกแบบเข้ารูป …
หากแยกสาเหตุลักษณะน่องใหญ่นั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุคือใหญ่เพราะไขมัน หรือใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ ซึ่งสองสาเหตุนี้ก็ลักษณะ และสาเหตุต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นวิธีการลดน่องก็ต่างกันออกไปอีกด้วย น่องใหญ่ เพราะไขมัน ลักษณะ เหนือข้อเท้าจะทู่ ตัน และอวบอ้วน เกิดจากสาเหตุการสะสมของไขมันส่วนเกิน ได้จากการทานอาหารที่หวานจัด หรือแคลอรี่สูงๆ และไม่หมั่นออกกำลังกาย วิธีการลดน่อง คือการออกกำลังกาย อาจจะว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน หรือวิ่งเยาะๆ โดยใช้ปลายเท้าลงก่อนส้นเท้า เพราะจะช่วยให้เป็นการลดไขมันบริเวณข้อเท้าได้ดี นอกจากนี้การโยคะ เต้นแอโรบิคเบาๆ ก็ช่วยเบิร์นได้ดี และลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บข้อเท้าได้ง่าย รวมถึงการลดอาหารประเภทไขมันสูง โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต หันมาทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น น่องใหญ่ เพราะกล้ามเนื้อ ลักษณะ ส่วนน่องจะใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะเวลาเขย่งเท้าจะเห็นเป็นลูกๆ เป็นมัดกล้ามเนื้อแข็ง เกิดจากสาเหตุของพันธุกรรม การยืนหรือเดินนาน ชอบใส่ส้นสูง ออกกำลังกายหนักหรือผิดท่าเป็นประจำ วิธีการลดน่อง ให้เลือกเดินหรือวิ่งเบาๆ บนพื้นเรียบ ไม่ขรุขระ โดยใช้ส้นเท้าลงก่อนปลายเท้า เพราะจะทำให้เรายิ่งต้องใช้น้ำหนักลงข้อเท้ามากขึ้น หรือต้องใช้แรง จึงอาจไปเพิ่มมัดกล้ามเนื้อได้จากการเกร็งบริเวณน่องนั่นเอง หรือถ้าวิ่งบนลู่ให้เลือกแบบไม่ชันมาก นอกจากนี้ควรจะลดพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อมากขึ้น เช่น พักการใส่ส้นสูง …
ไม่ว่าจะคนตัวเล็กตัวใหญ่ก็มีโอกาส “ขาใหญ่” ได้ทั้งนั้น เพราะเป็นอวัยวะที่เราใช้ทุกวัน และเป็นตัวรับน้ำหนัก รวมถึงอาหารที่เรากินไปก็ไปลงขาด้วยนี่แหละ! จึงไม่แปลกใจว่าทำไมขาถึงค่อยๆ ขยายหรือหดไปตามพฤติกรรมเรา งั้นต้องตามไปเช็คสิว่า ขาใหญ่แบบนี้เกิดจากอะไร ขาใหญ่ สะโพกผาย ลักษณะ: จะดูใหญ่ตั้งแต่สะโพกถึงต้นขา และคนในครอบครัวมีคนที่เป็นลักษณะเดียวกัน สาเหตุ: เพราะเป็นเรื่องกรรมพันธุ์ของโครงสร้างกระดูก แต่จะยิ่งเห็นชัดมาก ถ้าคนนั้นเอวเล็ก สะโพกผาย จะเป็นลักษณะหุ้นคล้ายลูกแพร์ วิธีแก้ไข: ถ้าเกิดจากโครงสร้างกระดูกจะแก้ยากมากทางวิธีธรรมชาติ เช่น การออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร ดังนั้นหากอยากลดขนาดจริงๆ อาจจะต้องไปใช้วิธีของการศัลยกรรม แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น แนะนำให้กลับมาดูที่พฤติกรรมของเราร่วมด้วย ว่าจริงๆ แล้วสาเหตุมาจากโครงสร้างร่างกายที่มีมาแต่เกิดทั้งหมดจริงไหม? เพราะถ้าเป็นคนที่ชอบทานไขมัน และไม่ค่อยได้ขยับร่างกายด้วย หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ขาใหญ่ก็อาจมาจากสาเหตุนี้ร่วมด้วย แต่แน่นอนแหละว่า หากเทียบต้นขาและสะโพกของคนทั่วๆไป ใครที่มีทรวดทรงของหุ่นในลักษณะนี้ก็อาจทำให้ขาใหญ่มากกว่าคนอื่นขึ้นไปอีกจ้า ขาเปลือกส้ม ลักษณะ: มักจะใหญ่ช่วงต้นขา และผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ เห็นเป็นชั้นริ้วๆ เหมือนเปลือกส้ม สาเหตุ: เกิดจากการสะสมเซลล์ไขมันหรือที่รู้จักกันดีว่า เซลลูไลท์ ซึ่งเข้าไปแทรกอยู่ในชั้นผิวหนังแท้และขึ้นมาเห็นชัดบนผิว ซึ่งจะเห็นน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน และมักจากเกิดได้หลายสาเหตุมาก เช่น ไขมันสะสม ดื่มน้ำน้อย นั่งท่าเดิมนานๆ ทานอาหารรสจัด ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่มาก …
กินเผ็ด กินอาหารรสจัดทำให้ขาใหญ่ ออกกำลังกายก็แล้ว เวทก็แล้ว แต่ขายังใหญ่อยู่เลย!!! ปัญหาโลกแตกของสาวที่อยากมีขาเรียวสวย มาลองสังเกตุตัวเองกันค่ะว่านอกจากกรรมพันธุ์ และชอบนั่งอยู่กับที่นานๆแล้ว คุณยังเป็นคนที่ชอบทานอาหารรสจัดด้วยหรือเปล่า สงสัยกันใช่ไหมคะ? ว่าทำไมทานอาหารรสจัดแล้วขาถึงใหญ่ เรามาทำความเข้าใจง่ายๆกันว่า… อาหารรสจัดส่วนใหญ่จะมีทั้งรสเปรี้ยว เผ็ด หวาน ซึ่งมักจะกลบหรือซ่อนรสเค็มที่มาจากโซเดียมเอาไว้ ทำให้เราไม่ทันระวัง และความเค็มจากโซเดียมมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำใต้ผิวก็จะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ หรือไหลลงขานั่นเอง ทำเกิดการบวมน้ำ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนที่ทานอาหารรสจัด หรือ ทานเค็ม ทานเผ็ดถึงมีต้นขาใหญ่ อาหารที่ทานแล้วทำให้ขาใหญ่แบบไม่รู้ตัวไม่ใช่ว่าจะต้องงดอาหารที่ทำให้ขาใหญ่ เพียงแต่เราควรทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือหากทานมากให้ดื่มน้ำเยอะๆ และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย ซึ่งอาหารที่จัดอยู่ในประเภทที่ทำให้ขาใหญ่จะมีโซเดียมสูง หรือ มีการปรุงรสจัดนั่นเอง ไม่ว่าจะ ส้มตำ, อาหารแปรรูป, ขนมกรุบกรอบ, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่น้ำซุป วิธีแก้ต้องเริ่มตั้งแต่การทานเพราะอาหารรสจัด และอาหารเค็มทำให้ขาใหญ่ ก็ต้องเริ่มจากการลดหรือทานให้น้อยลง ไม่ควรทานบ่อยจนเกินไป เลือกทานผักและผลไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรูปร่างที่สมส่วน และสุขภาพที่แข็งแรง นอกจากนี้เรายังสามารถแก้ปัญหาขาใหญ่ได้ด้วยการนวดกดจุด เพื่อลดอาการบวมคั่งในกล้ามเนื้อให้ระบบน้ำเหลืองไหลเวียนดี และขับออกมาทางปัสสาวะ ก็จะช่วยให้ขาค่อยๆเล็กลง หรือ บวมโซเดียมน้อยลง