- Advertisement -
beautyseefirst advertising
Uncategorizedน้ำดื่ม Archives - Beautyseefirst

น้ำดื่ม Archives – Beautyseefirst

ไม่ว่าจะเป็นสาย healthy ที่ชื่นชอบในการดูแลสุขภาพ หรือจะเป็นสาย Beauty ที่เน้นไปที่การดูแลระบบขับถ่ายและการดูแลผิวพรรณ การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายแต่ละส่วนก็เป็นกุญแจสำคัญต่อการทำงานของทุกระบบทั้งสิ้น ซึ่งวันนี้เราจะพามาไขข้อข้องใจว่าแต่ละส่วนของร่างกายนั้นมีปริมาณน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มากแค่ไหน และความสำคัญของแต่ละส่วนของร่างกาย มีน้ำเป็นกุญแจสำคัญได้อย่างไรกัน สำหรับสาย healthy ที่ชื่นชอบการดูแลสุขภาพเป็นนิจ มีกิจกรรมหลักคือการออกกำลังกายหรือเน้นไปที่การดูแลรูปร่างให้ดูดีอยู่เสมอ สิ่งที่ควรมองข้ามไปไม่ได้เลยคือการดื่มน้ำเพื่อทดแทนพลังงานที่เสียไปในแต่ละวัน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมากกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำอีกด้วย ทีนี้มาดูกันว่าแต่ละส่วนในร่างกายของเรานั้นมีปริมาณน้ำเป็นกี่เปอร์เซ็นต์กันบ้าง ปอด : อวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญอย่างการช่วยแลกเปลี่ยนออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างปอด มีน้ำมากถึง 90% ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าการดื่มน้ำที่พอเหมาะ ช่วยให้การทำงานของปอดทำได้ดีขึ้นนั่นเอง กล้ามเนื้อ : เหล่ามวลกล้ามเนื้อต่างๆ ที่ทำงานหนักระหว่างออกกำลังกาย หรือแม้แต่การขยับร่างกายในชีวิตประจำวัน ก็มีปริมาณน้ำสูงถึง 75% ดังนั้นหากไม่อยากให้การทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อลดลง การดื่มน้ำที่เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญมาก หัวใจ : การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ของหัวใจก็นับเป็นหน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน และอวัยวะที่เป็นดั่งห้องเครื่องหลักก็เต็มไปด้วยปริมาณน้ำกว่า 75% เลยทีเดียว สมอง : การใช้งานสมองหนักๆ เป็นเวลาติดต่อกัน โดยที่ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ถือเป็นการทำร้ายการทำงานของสมองอีกทางหนึ่ง เพราะในสมองมีน้ำมากถึง 75% ดังนั้นหากรู้สึกสมองไม่ปลอดโปร่ง ลองเปลี่ยนตัวเองให้จิบน้ำระหว่างวันให้บ่อยที่สุดกันดู กระดูก : สาย …

มีหลายงานวิจัยออกมาพูดถึงการดื่มน้ำที่มากเกินไป ว่าอาจส่งผลเสียได้ โดยเฉพาะช่วงหลังออกกำลังกายหนักๆ ร่างกายยังไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ การดื่มน้ำมากและไว ระบบภายในจะทำงานหนักส่งผลต่อสุขภาพภายหลัง หรือแม้แต่การติดน้ำชนิดที่ขาดไม่ได้ ก็เป็นโรคทางจิตใจอย่างหนึ่ง ซึ่งทางการแพทย์อาจจะยังยืนยันสาเหตุไม่ได้ แต่คาดว่ามาจากความเข้าใจที่ว่าการดื่มน้ำ คือ เรื่องดี จนลืมไปว่าปริมาณน้ำที่ดื่มควรเพียงพอต่อความต้องการของร่างๆกาย ซึ่งเพื่อนสามารถดูปริมาณน้ำดื่มที่เหมาะสมต่อน้ำหนักตัวได้ที่ ตารางดื่มน้ำตามน้ำหนักตัว กับสูตรวิธีคิดง่ายๆ ดื่มน้ำมากหลังออกกำลังกายหนักๆ ทำให้เสียสุขภาพเราเข้าใจดีว่าการออกกำลังกายมันเหนื่อย แต่แนะนำว่าถ้าหิวน้ำให้ใช้วิธีค่อยๆ จิบน้ำทีละน้อย หรือถ้าจะดื่มน้ำมากๆ ควรดื่มหลังออกกำลังกายไปแล้ว 1 ชั่วโมง หากดื่มน้ำมากและเร็ว หลังออกกำลังกายหนักๆ ร่างกายยังไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ อาจจะทำให้เสียสุขภาพได้ ดื่มน้ำมากเกินไปอาจสมองบวมได้ไม่ได้ยกตัวอย่างให้กลัว การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้เราเกิดภาวะสมองบวมขึ้นมาได้จริง แต่ทั้งนี้ต้องมากในระดับที่เหมือนคนติดน้ำ ซึ่งปริมาณที่มากไปนั้น จะไปส่งผลต่อระบบการทำงานของไต ในการขับน้ำออกจากร่างกายเรา ทำให้เลือดหล่อเลี้ยงร่างกายน้อย และเกลือแร่ลดน้อยลง ส่งผลต่อเซลล์สมอง สมองจึงบวมขึ้นมา ในกรณนี้ถ้าหายใจตัดขัด หรือในคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงก็อาจส่งผลถึงชีวิต โรคขาดน้ำไม่ได้ได้ฟังครั้งแรกยังตกใจ แต่พบว่าโรคนี้มีจริง เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Polydipsia คือ จะชอบดื่มน้ำมากจนผิดปกติ และรู้สึกต้องดื่มตลอดเวลา ทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุของโรคนี้ได้ว่าเกิดมาจากอะไร แต่โดยส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจว่า การดื่มน้ำมากก็เป็นเรื่องที่ดี และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เลยพยายามดื่มน้ำตลอดเวลาจนติด ทั้งที่ความจริงแล้วการดื่มน้ำมากเกินไปอาจส่งผลเสียได้เช่นกัน น้ำไม่สะอาดเสี่ยงภาวะน้ำเป็นพิษเป็นเรื่องที่ควรระวัง สำหรับน้ำที่เราดื่มในแต่ละครั้ง …

พูดถึงน้ำแร่ เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะชื่นชอบและมีความเชื่อว่าการดื่มน้ำแร่นั้นให้ประโยชน์กับร่างกายมากกว่าการดื่มน้ำธรรมดาแน่ๆ แต่จริงๆ แล้วความแตกต่างของน้ำธรรมดา และน้ำแร่ก็มีเพียงแค่ปริมาณแร่ธาตุที่มากกว่าเท่านั้นเอง จะเลือกดื่มน้ำแร่อย่างไรให้เหมาะถึงจะให้ประโยชน์กับร่างกายมากที่สุด วันนี้เราสรุปข้อมูลมาไว้ให้แล้วค่ะ น้ำแร่ คืออะไร ต่างจากน้ำเปล่าธรรมดายังไง? น้ำแร่ คือ น้ำบาดาลจากแหล่งธรรมชาติที่มีแร่ธาตุผสมอยู่ในปริมาณสูง เช่น แหล่งน้ำพุ น้ำผุดตามธรรมชาติจากต้นน้ำ โดยทั่วไปมักจะพบแร่ธาตุในน้ำแร่ด้วยกันหลายชนิด เช่น แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ไบคาร์บอเนต ไอโอดีน ฟลูออไรด์ และกำมะถัน ปริมาณของแร่ธาตุจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา รวมถึงกลิ่นและรสชาติก็จะมีความแตกต่างกัน ในภาคอุตสหกรรมน้ำแร่ธรรมชาติอาจถูกนำมาผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น ปรับปริมาณก๊าซ กำจัดสิ่งปนเปื้อน หรือฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาขายในท้องตลาด หากถามว่าน้ำเปล่าธรรมดากับน้ำแร่มีความแตกต่างกันอย่างไร คำตอบก็คือ น้ำเปล่าที่เราดื่มๆ กันโดยทั่วไป ก็มีการผ่านกระบวนการกรองและกำจัดเชื้อโรคคล้ายกัน แตกต่างกันที่ปริมาณแร่ธาตุในน้ำเปล่าจะเจือจางกว่าในน้ำแร่เท่านั้นเอง น้ำแร่มีหลายประเภทไหม ให้ประโยชน์ต่างกันยังไง? เราสามารถจำแนกประเภทของน้ำแร่ออกตามชนิดของแร่ธาตุที่ผสมอยู่มากได้ โดยแต่ละชนิดย่อมส่งผลและให้ประโยชน์กับร่างกายแตกต่างกันไป เช่น น้ำแร่ไบคาร์บอเนต คือ น้ำแร่ที่มีปริมาณไบคาร์บอเนตมากกว่า 600 มิลลิกรัมต่อลิตร ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำและเกลือแร่ให้ร่างกาย ปรับสมดุลสารคัดหลั่งที่มีฤทธิ์เป็นกรดให้เป็นกลาง จึงเหมาะกับการดื่มก่อนออกกำลังกาย หรือเหมาะสำหรับคนที่ทำงานที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ น้ำแร่ซัลเฟต …

เชื่อว่าคนเกินครึ่งถ้าถามว่าเวลาเผ็ดต้องทำยังไง คงจะตอบว่า “ดื่มน้ำ” อย่างแน่นอน เพราะความเผ็ดคืออาการแสบร้อน แล้วอะไรจะดูดับร้อนได้ดีไปกว่าน้ำอีกล่ะ? แต่บอกเลยนะคะ ว่าความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะแท้จริงแล้วการดื่มน้ำไม่ได้ช่วยทำให้หายเผ็ด แถมดีไม่ดียังจะทำให้เผ็ดมากขึ้นกว่าเดิมด้วย ทำไมน้ำถึงไม่ใช่พระเอกของเรื่องนี้? ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า ความเผ็ดจากพริก มีที่มาจากสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่า “แคปไซซิน (Capsaicin)” ซึ่งเจ้าสารตัวนี้เมื่อสัมผัสกับเนื้อเยื่อของร่างกายเราจะสร้างให้เกิดความรู้สึกแสบร้อน หรือก็คือ “ความรู้สึกเผ็ด” นั่นแหละ ข้อต่อมาที่เราต้องรู้ ก็คือเจ้าแคปไซซินนั้นเป็นสารแบบโมเลกุลไม่มีขั้ว (non-polar molecules) ซึ่งจะละลายได้ในสารโมเลกุลไม่มีขั้วด้วยกันเองเท่านั้น มาถึงตรงนี้พอจะเดาได้แล้วใช่ไหมคะ ถูกต้องค่ะ “น้ำ” เป็นสารโมเลกุลแบบมีขั้ว (Polar molecules) ดังนั้นแคปไซซินจึงไม่ละลายในน้ำ (ต่อให้เป็นน้ำเย็นก็เถอะ) และที่แย่กว่านั้นก็คือน้ำจะพาให้สารแคปไซซินกระจายไปทั่วปาก ทำให้เผ็ดหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก! แล้วกินอะไรถึงจะหายเผ็ดได้ล่ะ? พระเอกตัวจริงของเรื่องนี้ก็คือ นม (และผลิตภัณฑ์จากนม) นั่นเอง! เพราะว่านมมีโมเลกุลแบบไม่มีขั้ว ทำให้สามารถช่วยเจือจางความเผ็ดจากแคปไซซินได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นครั้งหน้าถ้ากินอะไรเผ็ดๆ มามองหานม โยเกิร์ต หรือไอศกรีมแทนดีกว่านะ! ขอขอบคุณข้อมูลจาก FoxNews

ตามข้อมูลของไทยและต่างประเทศเองจะมีคำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำอย่างเหมาะสมกับร่างกาย ซึ่งเรามักจะอิงปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักของตัวเรา และไลฟ์สไตล์ แต่หลายคนก็ยังดื่มน้ำน้อยอยู่ดี งั้นมาดูทริคนี้กันอาจช่วยให้ทุกคนดื่มน้ำได้มากขึ้น ทริคทำยังไงถึงไม่ลืมดื่มน้ำ แนะนำให้เขียนเวลาดื่มในช่วงสำคัญๆ ไว้บนขวดซ่ะเลย แล้ววางขวดน้ำไว้บนโต๊ะทำงานหรือถ้าใครสะดวกพกก็ยิ่งดี เป็นทริคเกี่ยวกับการดื่มน้ำง่ายๆ ด้วยการเขียนเวลานั่นเอง ปล. แนะนำว่า ถ้าหากสนใจทริคนี้ ควรใช้ขวดน้ำไซส์ 1.5 ลิตรนะจ้า เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำไม่น้อยเกินไป นอกจากนี้ร่างกายเรายังรับน้ำเพิ่มได้อีก หรืออาจคิดตามน้ำหนักตัวที่สูตรนี้ (น้ำหนักกิโลกรัม x 2.2 x 30) / 2 = ปริมาณน้ำหน่วยมิลลิลิตร *1,000 มิลลิลิตร จะเท่ากับ 1 ลิตร รู้หรือไม่ว่า นอกจากร่างกายจะต้องการน้ำร้อยละ 80 จากน้ำที่เราดื่มแล้วนั้น ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 20 ก็คือมาจากอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ส่วนการดื่มน้ำให้ถูกเวลาก็ช่วยเรื่องน้ำหนักได้เช่นกันนะจ้า อ่านต่อที่ CLICK

บทความที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใหม่ล่าสุด

More article