“น้ำ” เป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ขาดไม่ได้ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า ร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 70 ดังนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน โดยปกติแล้วเราควรดื่มน้ำ 2.5-3 ลิตรต่อวัน เพื่อกระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่อมแซม ฟื้นฟู และรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย แต่รู้ไหมว่า นอกจากน้ำที่เราดื่มน้ำเป็นแก้วแล้ว เรายังสามารถได้รับน้ำจากการทานผัก และผลไม้อีกด้วย ผักผลไม้ที่ให้น้ำและประโยชน์เยอะที่สุด เราสามารถได้รับน้ำจากผักและผลไม้ที่กินเข้าไปจำนวนหนึ่ง แถมยังได้รับวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงไฟเบอร์ และสารอาหารอีกมากมาย นอกจากนี้ยังช่วยคลายร้อนได้อีกด้วยนะ เอาเป็นว่าดื่มน้ำให้พอเพียงแล้วก็ทานผักผลไม้พวกนี้ที่เราแนะนำ เพื่อหนทางสู่การมีผิวสวยแบบไม่ไกลเกินเอื้อม แตงโม (มีน้ำ 92%) ผลไม้ยอดนิยมประจำหน้าร้อนของประเทศไทย แตงโมเพียงแค่ 1 ลูกก็มีสารอาหารมากมาย ตั้งแต่ไฟเบอร์ แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินซี ที่ช่วยบำรุงผิวและเส้นผม รวมไปถึงสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยปรับสมดุล และบรรเทาอาการโรคต่างๆ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้เรายังได้รับน้ำถึง 92% สามารถบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้ มะเขือเทศ (มีน้ำ 93%) คือราชินีแห่งผัก ซึ่งเห็นได้จากการนำมะเขือเทศไปเป็นส่วนผสมหลักของเหล่าอาหารเสริมต่างๆ โดยคุณสมบัติที่เน้นก็คือ …
ถ้าพูดถึงแคลเซียม เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะนึกถึงนมเป็นอันดับแรก แต่ว่าสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดื่มนมล่ะก็ เชื่อหรือไม่คะ ว่าในผักบางชนิดเองก็มีแคลเซียมสูงเหมือนกันนะ! และที่สำคัญ คือผักเหล่านั้นเป็นผักพื้นบ้านธรรมดาๆ ที่สามารถหาทานได้ง่ายๆ และแฝงตัวอยู่ในอาหารไทยของเราตั้งหลายเมนูเลยล่ะค่ะ อย่างที่เขาว่ากันแหละ ภูมิปัญญาไทย ทานอาหารเป็นยา ดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ นะเนี่ย! ก่อนไปเรื่องผัก ทำไมแคลเซียมถึงสำคัญ? อย่างที่หลายๆ คนน่าจะพอรู้มาบ้างว่า แคลเซียม มีความสำคัญต่อร่างกายของเราอย่างมาก เพราะส่งผลต่อโครงสร้างของกระดูกและฟัน ทั้งมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ มีความจำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือด เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้โรคกระดูกเสื่อม กระดูกพรุนถามหา เราจำเป็นต้องรับแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันนะคะ คนปกติต้องการแคลเซียมราวๆ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้สูงอายุและคุณแม่ต้องครรภ์ที่ให้นมบุตร ต้องการแคลเซียมเพิ่มเป็น 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ใบชะพลู 100 กรัม มีแคลเซียม 601 มิลลิกรัม ช่วยลดการปวดบวมของกล้ามเนื้อ ช่วยดับกลิ่นปาก แก้คัดจมูก ผักแพว 100 กรัม มีแคลเซียม 573 มิลลิกรัม อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยในการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ยอดแค 100 กรัม มีแคลเซียม …
ถ้าพูดถึงการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่เราจะไม่พูดถึงการรับประทานผักและผลไม้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินแร่ธาตุและกากใยอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่นอกจากประโยชน์ที่พูดว่าแล้วในผักและผลไม้ยังมี “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านการเสื่อมสภาพของเซลล์และป้องกันสารพัดโรคร้ายได้อีกด้วย ซึ่งในผักและผลไม้แต่ละสีก็มีสารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วว่าในแต่ละสีช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง! สีขาว มีสารแซนโทน (Xanthone) กรดไซแนปติก (Synaptic acid) และ อัลลิซิน (Allicin) ลดอาการปวดข้อเข่า ลดคลอเรสเตอรอล ลดความดัน รักษาระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหาร กระเทียม ถั่วงอก หอมหัวใหญ่ หัวไชเท้า ผักกาดขาว สาลี่ เงาะ สีแดง มีสารไลโคปีน (Lycopene) และ เบตาไซซีน (Betacycin) ที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอีถึง 100 เท่า และมากกว่ากลูตาไธโอนถึง 125 เท่า ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ชะลอความเสื่อมของดวงตา มะเขือเทศ พริกหวาน พริกชี้ฟ้า แตงโม สตรอเบอร์รี่ เชอร์รี่ องุ่นแดง สีส้ม / เหลือง …
ขึ้นชื่อว่าผัก ยังไงก็มีทั้งประโยชน์และใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพแน่นอนอยู่แล้ว เชื่อว่าใครหลายๆ คนน่าจะมีความเชื่อว่าการทานผักสดๆ จะให้ประโยชน์กับร่างกายมากที่สุด เพราะไม่สูญเสียวิตามินและแร่ธาตุไป? แต่จริงๆ แล้วกับผักบางชนิด การทานสุกกลับให้ประโยชน์มากกว่านะคะ หรือในบางเคสกินดิบๆ ยังจะกลายเป็นให้โทษได้อีกด้วย วันนี้เราเลยจะมาสรุปให้ทุกคน ว่าผักชนิดไหนควรกินสดหรือกินสุก! ผักที่ควรกินแบบสุก หรือผ่านความร้อน แครอท แครอทเป็นผักที่มีเบตาแคโรทีนสูงมากๆ ทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบและป้องกันเชื้อโรค การรับประทานแบบสุก ไม่ว่าจะต้ม นึ่ง หรือวิธีอื่นๆ ความร้อนจะเข้าไปทำลายผนังเซลล์ของแครอททำให้ร่างกายการดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ดีขึ้น ทำให้เราได้รับปริมาณเบตาแคโรทีนที่สูงขึ้นกว่าการทานดิบ มะเขือเทศ สารไลโคปีนในมะเขือเทศสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และบำรุงหัวใจ เป็นอีกสารหนึ่งที่ความร้อนสามารถเข้าไปทำลายผนังเซลล์และเปลี่ยนแปลงให้ไลโคปีนอยู่ในรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ดังนั้นกินมะเขือเทศแบบสุกจึงให้ประโยชน์มากกว่าแบบดิบ ถั่วงอก เป็นหนึ่งในผักที่คนนิยมทานดิบกันมากๆ แต่รู้ไหมคะว่าในถั่วงอกดิบนั้นมีสารที่ชื่อว่า กรดไฟติก (Phytic acid) ที่สกัดกั้นการดูดซึมสารอาหารต่างๆ ทำให้เราได้รับสารอาหารน้อยกว่าที่ควร นอกจากนี้ถั่วงอกดิบยังมีโอกาสปนเปื้อนสารฟอกขาว ที่อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ หายใจไม่สะดวก ความดันต่ำ และปวดท้องได้ กะหล่ำ / บล็อกโคลี่ / คะน้า บ้านตระกูลกะหล่ำ ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี บล็อกโคลี่ หรือคะน้า เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่เราควรจะรับประทานแบบสุก …
รู้หน้า ไม่รู้ชื่อ ก็ผักสลัดนี่แหละ ของโปรดของสายสุขภาพ ที่ไม่ว่าจะกินเปล่าๆ กินกับน้ำสลัด หรือนำไปประกอบอาหาร ก็อร่อยถูกใจ ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว แต่ละผักยังดีต่อสุขภาพอาทิ ช่วยล้างลำไส้ แก้ท้องผูก กระตุ้นการขับถ่าย ทำให้นอนหลับง่าย หรือแม้แต่ลดคลอเรสตอรอล ว่าแต่จะมีผักอะไรบ้าง ไปดูกันเลย เรดโอ๊ค : ใบสีแดงเข้ม ปลายใบหยิกเป็นผักที่มีวิตามิน และสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ไม่ว่าจะ มีวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต และธาตุเหล็ก เหมาะกับคนมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย เรดโอ๊คจะช่วยล้างลำไส้ ให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างมีระบบขึ้น กระซิบว่าเรดโอ๊ค ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ทานสดจะอร่อยมาก กรีนโอ๊ค : ใบหยักสีเขียว เป็นพุ่มกรีนโอ๊ค หน้าตาจะคล้ายเรดโอ๊ค รสชาติหวาน กรอบ เป็นพุ่ม แคลอรี่น้อย มีวิตามินบี วิตามินซี และไฟเบอร์สูงช่วยเรื่องท้องผูก บำรุงสายตา กล้ามเนื้อ และเส้นผมได้เป็นอย่างดี รับประทานง่ายมากๆ จะทานสดๆ หรือราดด้วยน้ำสลัดก็อร่อย กรีนคอส : ใบเรียวยาว …
ผัก ผลไม้ ทานกันอยู่ประจำ แต่ก็เถียงกันมาตลอด มะเขือเทศ ข้าวโพด ฟักทอง พืชปริศนาที่ใครก็ว่าเป็นผักบ้าง ผลไม้บ้าง วันนี้เราเอามาแยกกันตามพฤกษศาสตร์เลยค่ะ ว่าพืชอันนี้เป็นผัก พืชอันนี้เป็นผลไม้ ว่าแต่พร้อมเช็คตัวเองกันไหม? ว่าที่รู้มานั้นถูกหรือผิด ผัก ผลไม้ มีสารอาหาร วิตามิน รวมถึงแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่หลายคนมักสับสนว่าอันไหนผัก อันไหนผลไม้กันแน่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปแยก 2 สิ่งนี้ให้ชัดๆ แบบง่ายๆ ผลไม้ (fruit) มีเมล็ดอยู่ในผลเป็นพืชที่มีการออกดอก และเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมล็ด ซึ่งผลไม้จะแตกต่างจากผักตรงที่เกิดจากดอกไม้ของพืช และมีเมล็ด อาทิ แอปเปิ้ล แตงโม สับปะรด ส้ม เป็นต้น และยังมีพืชที่หลายคนคิดว่าเป็นผักอย่าง มะเขือเทศ แตงกวา ฟักทอง อะโวคาโด ข้าวโพด หรือแม้พริกหยวก ก็จัดเป็นผลไม้ทั้งหมด เพราะมีการออกผลมาจากดอกและมีเมล็ดจึงถูกจัดเป็นผลไม้⠀ ผัก (Vegetable) ไม่มีเมล็ด ทานได้ทุกส่วนเป็นพืชที่เกิดจากการเมล็ดงอกขึ้นมาเป็นลำต้น มีใบอยู่บนดิน และมีรากลึกลงไปในดิน ส่วนใหญ่สามารถทานได้ทั้งราก ลำต้น ใบ …
ประชุมติดกันจนหัวฟู หรืองานด่วนงานเร่งกองเต็มโต๊ะ แต่คนสวยอย่างเราๆ ถึงจะไม่มีเวลาแค่ไหน แต่ก็ยังอยากคุมแคลอรี่ให้ได้ มาลองดู 9 เมนูหาง่ายๆ เดินลงไปเซเว่นใต้ออฟฟิศก็เจอแล้ว แต่ยังไงก็ต้องขอแอบกระซิบไว้นิดนึงนะ ว่าการทานอาหารสำเร็จรูปหรือแช่แข็งบ่อยๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะคะ ทางที่ดีขอแนะนำให้ลองจัดสรรเวลาแล้วหาอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ทานสลับบ้างจะดีกว่านะ ปลานึ่ง + น้ำจิ้มซีฟู้ด ย่อยง่าย สบายท้อง แซ่บน้ำจิ้มซีฟู้ด ขนาด 127 กรัม ให้พลังงาน 110 kcal. ราคา 49.- ปริมาณโซเดียม 320 มิลลิกรัมฃ สลัดผักเฮลตี้ ที่ขอแนะนำให้ทานคู่กับไข่ต้ม เพิ่มคุณค่าและความอิ่ม ขนาด 114 กรัม ให้พลังงาน 25 kcal. (เพิ่มไข่ต้ม +80 kcal. เป็นประมาณ 105 kcal.) ราคา 39.- ปริมาณโซเดียม 20 มิลลิกรัม แซลมอนนอร์เวย์ย่างซอสเทอริยากิ หอมกลิ่นซอส อร่อยทานง่าย ขนาด …