Home How to ผิวแห้ง มีกี่ประเภท เกิดจากอะไร แล้วดูแลยังไงดี?

ผิวแห้ง มีกี่ประเภท เกิดจากอะไร แล้วดูแลยังไงดี?

0
64-1867618

ผิวแห้ง เป็นหนึ่งในปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม โดยผิวแห้งนั้นมีหลายประเภท และขั้นของความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรม ฮอร์โมน อายุ อาหาร ชั้นผิวที่อ่อนแอ รวมไปถึงการดำเนินชีวิตประจำวันของแต่ละคน อย่างการทำความสะอาดผิวบ่อยๆ สภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง ยารักษา สกินแคร์ที่ใช้อาจไม่มีประสิทธิภาพมากพอ รวมไปถึงการดื่มน้ำไม่เพียงพอก็ทำให้ผิวของเรามีการสูญเสียน้ำอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ก็ช่วยให้ผิวของเราดูสดใส และมีสุขภาพที่ดีได้อย่างแน่นอน

ผิวแห้งคล้ำเสีย
ผิวแห้งประเภทนี้ แน่นอนว่าเกิดจากแสงแดด และยูวีที่คอยทำร้ายผิว ดึงเอาความชุ่มชื้นออกไป โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงๆ ส่งผลให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน ไหม้เสีย หมองคล้ำดูไม่มีราศี ยิ่งใครที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว ก็อาจไวต่อแสงแดด ทำให้ผิวไหม้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ก็ยังมีโอกาสที่ผิวจะมีจุดด่างดำและเกิดริ้วรอยได้ง่ายอีกด้วย

วิธีดูแล ควรปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดทุกวันแม้ในวันที่ไม่มีแดด และควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง ส่วนครีมกันแดดที่เลือกใช้ นอกจากจะป้องกันผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบีแล้ว ควรมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น และกระจ่างใสด้วย

CLARINS UV Plus Anti-Pollution SPF50/Pa+++ (30 มล. 1,990 บาท)
กันแดดรุ่นใหม่ที่ช่วยปกป้องผิวจาก 5 มลภาวะที่พบในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ,ภายในอาคาร, ละอองเกสร, แสงสีฟ้า และมลพิษ ทางแสง (การรวมกันของมลภาวะและรังสียูวี) ด้วยการปกป้องขั้นสูงสุด เนื้อสัมผัสเบาสบายสดชื่น ซึมซาบลงบนผิวได้ทันที พร้อมสารสกัดจากใบ Organic Leaf of Life ที่เก็บกักน้ำ ให้ผิวยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง

ผิวแห้งขาดน้ำ
ผิวแห้งชนิดนี้ จริงๆ แล้ว เราสามารถเรียกได้ว่า เป็น ผิวแห้งเทียม ซึ่งเป็น ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นหรือขาดน้ำใต้ผิวอย่างเพียงพอ เป็นสภาพผิวแห้งที่เกิดขึ้นเป็นบางเวลา โดยไม่ว่ามีผิวแบบไหน ก็สามารถขาดน้ำได้ มีสาเหตุมาจากกหลายปัจจัย อาทิ สภาพอากาศ มลภาวะภายนอก การนอนไม่เพียงพอ การดื่มน้ำและรับประทานอาหาร รวมไปถึง การขัดผิวหน้า ลอกผิวบ่อยๆและ การเลือกใช้สกินแคร์ไม่ถูกประเภทผิว เป็นต้น โดยสังเกตได้จากผิวของเราว่า จะมีอาการเดี๋ยวแห้ง เดี๋ยวมัน มีน้ำมันเคลือบผิวมาก แต่ผิวดูแห้ง ลูบแล้วสากมือ หรือแห้งเป็นช่วงๆ

วิธีดูแล ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอต่อร่างกายในหนึ่งวัน นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ AHA และ BHA ให้เลือกใช้สกินแคร์ทีมีความเข้มข้น และช่วยเติมเต็ม พร้อมกักเก็บน้ำให้ผิวดูมีสุขภาพอยู่ตลอดเวลา

MizuMi Dry Rescue Intense Melt-In Cream (45 มล. 690 บาท)
มอยเจอร์ไรเซอร์ สูตรเข้มข้น สำหรับผิวแห้งขาดน้ำ ต้องการบำรุงเป็นพิเศษ ด้วยคุณค่าจาก Natural Sugar Complex 3 ชนิด ช่วยเติมน้ำให้ผิวทันทีที่ใช้ พร้อมไฮยารูลอน 3 ขนาดโมเลกุล ส่งเสริมให้ผิวอุ้มน้ำได้ดียิ่งขึ้น และสารสกัดจุลินทรีย์จากธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวจากสภาวะอากาศที่ทำร้ายผิว และลดการเกาะผิวของฝุ่นละออง และ PM2.5

ผิวแห้งตลอดเวลา
ผิวแห้งแบบปกติ หรือ ผิวแห้งตลอดเวลา คือ สภาพผิวที่ขาดทั้งความชุ่มชื้น และขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ อาจมีสาเหตุมาจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยกว่าปกติ และฟิล์มไฮโดรไลปิดมีจำนวนน้อยกว่าผิวประเภทอื่นๆ ทำให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นาน นอกจากนี้เกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติก็จะไม่แข็งแรง นั้นหมายความว่าผิวจะเปราะบางต่อการถูกสิ่งแวดล้อมทำร้ายมากยิ่งขึ้น โดยส่งผลให้ผิวมีอาการแห้งตึงหรือคัน  ไม่สบายผิว บอบบาง แพ้ง่าย ไร้ซึ่งความมันหรือความชุ่มชื้น ซึ่งใครที่มีสภาพผิวแห้ง ก็จะง่ายต่อการเกิดริ้วรอยกว่าผิวประเภทอื่น เพราะขาดความยืดหยุ่นของผิว โดยส่วนมากผิวแห้งจะเป็นสภาพผิวที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด หรือเป็นปัญหาที่เกิดตามอายุ และโรคผิวหนังบางประเภท

วิธีดูแล เน้นสกินแคร์ประเภทที่ช่วย เติมน้ำ และน้ำมัน เก็บกักน้ำและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ควรเลือกใช้ออยล์บำรุงผิวอยู่เป็นประจำ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว อีกทั้งยังปลอบประโลม ช่วยให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน ช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื่นได้

THREE Balancing SQ Oil R (4,500 บาท)
ออยล์เซรั่ม ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ได้รับการรับรองจากสถาบันออแกนิกระดับโลก ด้วยออยล์ เซรั่มสูตรเข้มข้นประสิทธิภาพสูง ให้เนียนละเอียด แข็งแรงขึ้น พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มเปี่ยม สามารถใช้ก่อนลงโลชั่นได้ เป็นขั้นตอนบูสเตอร์ เซรั่ม

ผิวแห้งลอกเป็นขุย
ผิวแห้งประเภทนี้ ถือว่าเป็นขั้นกว่าของผิวแห้ง โดยเป็นภาวะผิวแห้งมาก หรือสังเกตได้จากสภาพผิวมีปัญหาแห้ง ลอกเป็นขุย มีสาเหตุมาจากการสูญเสียน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งตึง ลอกเป็นขุย ไม่เรียบเนียน หากขาดการดูแลจะยิ่งเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมีอาการคันผิวหนัง หรือผิวไวต่อการระคายเคืองง่าย นอกจากนี้ยังเกิดจากการที่มีปริมาณน้ำมันหล่อเลี้ยงใต้ผิวน้อย เช่น เซราไมด์ ที่มีหน้าที่ทำให้ชั้นปกป้องผิวแข็งแรง และป้องกันน้ำระเหยออกไป แต่หากขาดไขมันที่จำเป็นในผิว จะส่งผลทำให้ผิวหนังอ่อนแอ ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายและไวต่อการระคายเคือง

วิธีดูแล นอกจากจะบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเติมน้ำ และน้ำมันแล้ว ลองเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และแข็งแรงขึ้นอีกทั้งยังช่วยให้ผิวสามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยบทบาทสำคัญในการปกป้องเซลล์ของเราจากสิ่งสกปรกภายนอก และช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิว

DR. JART+ Ceramidin™ Serum (40 มล. 1,450 บาท)
เซรั่มให้ความชุ่มชื้นขั้นลึกที่ให้ความชุ่มชื้นถึงผิวหนังชั้นในโดยมีสิทธิบัตรการใช้เซราไมด์หลายชนิด