วลียอดฮิตที่มักจะได้ยินเวลาตากฝนมาหรือทำงานหนัก ก็คือ “เหมือนจะไม่สบายเลย กินยาดักไข้ไว้ก่อนดีกว่า” ซึ่งขอบอกเลยว่าความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ แถมยังเป็นอันตรายต่อตับของเราอีกต่างหาก แบบนี้จะมองข้ามความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมาแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ! ยาสามัญประจำบ้านที่ไม่ควรทานจนเป็นเรื่องสามัญ ยาพารา หรือ พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นชื่อยาที่เราทุกคนน่าจะคุ้นหูคุ้นตากันดี เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะพึ่งพายาตัวนี้อยู่บ่อยๆ ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า พาราเซตามอล เป็นยาที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และบางครั้งยังใช้ลดไข้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ถือเป็นยาที่เข้าถึงได้ง่ายและจัดเป็นยาที่ไม่อันตราย แต่ก็ด้วยข้อนี้ทำให้หลายคนมองว่าการทานยาพาราเซตามอลมากขนาดไหนก็คงจะไม่เป็นอะไร ทั้งที่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ การทานยาแบบผิดๆ อันตรายมากกว่าที่คิด หลายคนเชื่อว่าเวลาที่รู้สึกว่า “กำลังไม่สบาย” เราควรจะกินยาดักไว้ก่อน เรียกว่าใช้ยาทั้งที่ยังไม่มีอาการ บอกเลยว่าความเชื่อนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ว่าจะพาราเซตามอลหรือยาปฏิชีวนะ ล้วนมีการทำงานในแบบของ “การรักษาและบรรเทา” ไม่ใช่ “การป้องกัน” ทำให้ร่างกายของเราก็ถือว่ายานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอม ทีนี้ตับก็จะพยายามกำจัดยาบางส่วนออก ยิ่งเราทานยาเข้าไปในปริมาณที่มาก หรือกินทั้งที่ไม่ได้มีอาการป่วย ก็ยิ่งทำให้ตับต้องทำงานมากเกินความจำเป็น ผ่านไปนานๆ ตับของเราย่อมเสื่อมสภาพ และในทางเลวร้ายอาจนำไปสู่ภาวะตับอักเสบและตับวายได้ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่การทานยาดักเท่านั้นที่อาจส่งผลเสียต่อตับของเราได้ การทานยาพร่ำเพรื่อติดต่อกันนานๆ การทานร่วมกับแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาเกินขนาด ต่างก็ล้วนส่งผลเสียต่อการทำงานของตับได้ ใช้ยาพาราเซตามอลอย่างไรให้ปลอดภัย? ผู้ที่มีภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ ในการกินยา 1 …
คงเคยได้ยินตั้งแต่เด็กๆ เวลาโดนฝน ผู้ใหญ่มักจะบอกให้รีบอาบน้ำสระผม ซึ่งความเชื่อนี้เป็นเรื่องจริง! เพราะเมื่อร่างกายเปียกฝนก็มีส่วนทำให้เป็นไข้หวัดได้ง่ายกว่า!! ทำไมหนะหรอ หลายคนอาจสงสัย ทำไมฝนมีส่วนทำให้เป็นหวัดแบ่งได้ 2 เหตุผลหลักๆตามนี้ ไวรัสจะยิ่งกระจายตัว และแบ่งตัวได้เร็วขึ้นในหน้าฝน ไวรัสเป็นสาเหตุของการเกิดไข้หวัด และแพร่กระจายเร็วมากในหน้าฝน เพราะมีเป็นร้อยชนิดที่ลอยอยู่ในอากาศ และเมื่อฝนใกล้ตก ลมจะพัดกรรโชกแรง ไวรัสเหล่านี้ก็จะเคลื่อนไหวเร็วขึ้นในลักษณะปลิวลอยอยู่ในอากาศ ร่างกายเราก็มีโอกาสรับไวรัสพวกนี้ได้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเด็ก หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แถมเมื่อฝนตกแล้วเปียก อุณหภูมิในร่างกายลดลงก็ยิ่งเหมาะกับการแบ่งตัวของไวรัสเข้าไปอีก การอาบน้ำสระผมหลังโดนฝน จึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะมีส่วนอย่างมากในการช่วยกำจัดเชื้อไวรัสที่อาจเกาะอยู่บนผม และร่างกาย ทำให้ช่วยลดโอกาสการเป็นหวัดได้นั่นเอง ร่างกายขาดสมดุลที่เหมาะสมเมื่อศีรษะเปียก หากศีรษะเปียก โดยเฉพาะบริเวณกระหม่อมอาจทำให้เกิดการเสียสมดุลอุณหภูมิของร่างกาย เพราะฉะนั้นเมื่อศีรษะโดนละอองฝน ก็ทำให้กระหม่อมมีความชื้นและเย็น ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำลง โอกาสการเป็นหวัดก็มากขึ้น เพราะฉะนั้นการอาบน้ำสระผมหลังจากเปียกฝน นอกจากจะช่วยทำความสะอาด ขจัดไวรัสที่เกาะอยู่บนตัวเราแล้ว ยังช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ แต่สระผมแล้วก็เป่าให้แห้งสนิทด้วยนะ เพราะหากปล่อยผมเปียกชื้นนานๆ ก็จะทำให้เป็นหวัดด้วยเหตุผลที่เล่ามาข้างต้นได้ด้วยเช่นกัน คำแนะนำเพิ่มเติม ในยุคนี้ที่เชื้อโรคและไวรัสพัฒนาตัวเองเร็วไม่แพ้เทคโนโลยี นอกจากการอาบน้ำทำความสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงในหน้าฝนแล้ว ก็อย่าลืมที่จะใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายของเราให้ดี เพื่อช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อย่างการลองเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือจะเสริมด้วยวิตามินซี และซุปร้อนๆ หรือดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ก็ช่วยได้เหมือนกันนะ …