Home How to แก้ปวดข้อมือ ด้วย 6 ท่าบริหาร เล่นมือถือบ่อยระวังโรคถามหา

แก้ปวดข้อมือ ด้วย 6 ท่าบริหาร เล่นมือถือบ่อยระวังโรคถามหา

0

แก้ปวดข้อมือ ด้วย 6 ท่าบริหาร

แก้ปวดข้อมือ ด้วย 6 ท่าบริหาร เล่นมือถือบ่อยระวังโรคถามหา

เล่นมือถือนานๆนอกจากไม่ส่งผลดีต่อสายตา ยังอาจส่งผลเสียต่อข้อมือได้ด้วยนะ! ใช่แล้วทุกคน เรากำลังพูดถึงโรค Smartphone Syndrome หรืออาการปวดบริเวณ คอ ข้อมือและนิ้วของผู้ที่เล่นสมาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ถ้าหากเราไม่ป้องกันหรือเลิกพฤติกรรมการเล่นมือถือ หรือ พิมพ์คอมพิวเตอร์นานๆ อาจส่งผลให้เกิดการเจ็บปวดเรื้อรังได้ แต่เพื่อไม่ให้ไปถึงจุดนั้น BeautySeeFirst ขอชวนสาวๆ มาทำท่าบริหารข้อมืออย่างง่ายๆ ที่ทำได้เลยทันที เดี๋ยวนี้เวลา มาป้องกันอาหารปวดข้อมือกันเถอะ!

จริงๆแล้วโรค Smartphone Syndrome นั้นมีความคล้ายคลึงกับโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือนที่เราคุ้นหูกันอย่าง Office Syndrome คือ เป็นโรคที่เกิดจากการปวดเกร็งของกล้าม บริเวณคอ บ่า ไหล่ โดยที่ Smartphone Syndrome เพิ่มอาการปวดบริเวณแขน ข้อมือและนิ้วมือ

ในปัจจุบันด้วยไลฟ์สไตล์การใช้มือถือต่อเนื่องยาวนานแทบจะตลอดเวลา ไม่นับรวมการทำงานคอมพิวเตอร์ที่มีการขยับเกร็งข้อมือและนิ้วเป็นเวลานานๆ จึงทำให้ในตอนนี้หลายๆคนก็กำลังเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัวโรคนี้นับว่าเป็นภัยเงียบเพราะหลายครั้งที่เราเล่นมือถือเป็นเวลานานๆ แล้วเกิดอาการปวดแปลบๆ ขึ้นมาก็มักนิ่งนอนใจว่าเป็นอาการปวดเมื่อยธรรมดา หากบีบนวดหรือพักสักครู่ก็จะคลายความเจ็บลง แต่ถ้าหากยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปล่อยปละละเลยอาการปวดบ่อยๆ เวลานานอาจพบว่าอาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น เกิดถี่ขึ้น ก็จะเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเอ็นได้

การปวดข้อมืออาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน, การใช้มือในการทำงานหนัก หรือการออกกำลังกายที่ผิดรูปแบบ ดังนั้น การบริหารร่างกายอย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดอาการปวดข้อมือได้ นี่คือ 6 ท่าบริหารที่ช่วยขยายความและบรรเทาอาการปวดข้อมือ

  1. การงอข้อมือด้านหน้าและด้านหลัง: นั่งหรือยืนตรง งอข้อมือของมือที่เป็นที่เจ็บอย่างช้าๆ ไปด้านหน้าแล้วด้านหลัง ครับความตึงเครียดเบื้องล่างข้อมือ ทำไปเรื่อยๆ เป็นชุดของ 10-15 ครั้ง สลับข้างมือ
  2. การหมุนข้อมือ: งอข้อมือออกไปด้านข้างแล้วหมุนมือเป็นวงกลม ให้ทำทั้งที่มือของคุณยืดออกและยืดเข้า ทำเป็นชุดของ 10-15 ครั้ง สลับข้างมือ
  3. การยกน้ำหนักเบา: ใช้น้ำหนักเบาๆ เช่น ขวดน้ำเติมใส่กระเป๋าหลัง หรือถือของเบาๆ ในมือ แล้วยกขึ้นและลง ทำเป็นชุดของ 10-15 ครั้งสำหรับแต่ละมือ
  4. การยืดข้อมือด้านบน: ดันมือของคุณลงจากเงาะเดียวกับหน้าอก แล้วค่อยๆ งอข้อมือไปด้านบน ค้างไว้เป็นเวลา 15-30 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
  5. การบริหารกล้ามเนื้อหัวไหล่: จับไว้หลังหัวไหล่ด้วยมืออีกมือหนึ่งแล้วดันหัวไหล่ลงไปที่มือที่เป็นข้อมือที่เจ็บ ค้างไว้เป็นเวลา 15-30 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง
  6. การทำแกนเรียวข้อมือ: งอข้อมือออกไปด้านข้างแล้วหมุนมือขาวไปทางบน ค้างไว้เป็นเวลา 15-30 วินาที ทำซ้ำ 3-5 ครั้ง

ท่าบริหารเหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดข้อมือและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อและข้อมือของคุณ แต่หากอาการปวดยังคงไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

การป้องกัน

ทางที่ดีที่สุดคือการจัดสรรเวลาการใช้ มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ให้เป็นสัดส่วน มีเวลาพัก 10-15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแตะคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเลยบ้าง เพื่อพักสายตา กล้ามเนื้อคอ ข้อมือ และทำกายบริหารบริเวณข้อมืออย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดอาการเรื้อรัง