Home How to ศาสตร์แห่งสีสันเฉพาะตัว PERSONAL COLOR เช็คง่ายๆได้ด้วยตัวเอง! – Beauty See First

ศาสตร์แห่งสีสันเฉพาะตัว PERSONAL COLOR เช็คง่ายๆได้ด้วยตัวเอง! – Beauty See First

0

Tips&How to

ศาสตร์แห่งสีสันเฉพาะตัว PERSONAL COLOR เช็คง่ายๆได้ด้วยตัวเอง!

เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ความสวยที่กำลังได้รับความนิยมมากๆในตอนนี้กับสิ่งที่เรียกว่า Personal Color ซึ่งว่าด้วย สีที่เข้ากับคนแต่ละคน ศาสตร์ชนิดนี้เชื่อว่าเราทุกคนมีสีเข้ากับตัวเองแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งการแต่งหน้า ทำผม หรือแม้แต่การแต่งตัวด้วยสีสันที่เหมาะสมก็จะยิ่งขับเน้นรูปลักษณ์ของเราให้ออกมาเป็นตัวเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด! ซึ่งหลายคนคงเคยได้ยินมาว่ากระบวนการในการเช็ค Personal Color ของเรานั้นต้องไปทำที่ร้านใช้เวลาอย่างต่ำๆก็ครึ่งชั่วโมง แต่วันนี้ Beauty See First จะมาสอนเทคนิคง่ายๆ ของการหาสีที่ใช่และเหมาะกับตัวเรา ที่ทำได้เองง่ายๆ ทำตอนนี้เลยก็ได้!

อะแฮ่ม สิ่งแรกที่เราจะต้องรู้ในการหา Personal Color ของตัวเองนั้น คือ ศาสตร์ชนิดนี้แบ่งสีผิวของคนเราออกเป็นสองโทนด้วยกัน ได้แก่ ผิวโทนเหลือง (Yellow base) และ ผิวโทนฟ้า (Blue base) เพื่อจะตามหาสีสันที่เหมาะกับเรา สาวๆจำเป็นต้องรู้โทนสีผิวของตัวเองก่อน ซึ่งเราเตรียมแบบทดสอบง่ายๆ 9 ข้อเพื่อตามหาโทนสีที่ใช่สำหรับสาวๆมาไว้ให้แล้ว!

โอเค ใครที่ได้คำตอบส่วนใหญ่เป็นข้อ A แสดงว่าเป็นสาวผิวโทนฟ้า และใครที่ได้ข้อ B มากกว่าก็คือสาวผิวโทนเหลืองนั่นเอง! ขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว เรามาต่อที่ขั้นตอนที่สองกัน เมื่อเราทราบอันเดอร์โทนพื้นฐานแล้ว ขั้นต่อมา เราจะแบ่งเฉดของสีสันออกเป็น 4 กลุ่มตามชื่อฤดู เรียกว่า 4 Season Personal Color


Credit Photo : news.ameba.jp

  • Spring : Yellow base + Soft /Light  Color ผิวโทนเหลือง กับ โทนสีอ่อน
  • Autumn : Yellow base + Vivid / Deep Color ผิวโทนเหลือง กับ โทนสีสดจัด
  • Summer : Blue base + Soft / Light Color ผิวโทนฟ้า กับ โทนสีอ่อน
  • Winter : Blue base + Vivid / Deep Color ผิวโทนฟ้า กับ โทนสีสดจัด

Credit photo Matome.naver

การจัดกลุ่มของอันเดอร์โทนแต่ละอันก็คือ สาวผิวโทนเหลือง จะแบ่งเป็นสาว Spring กับ สาว Autumn ส่วนสาวๆที่อยู่ในกลุ่มอันเดอร์โทนฟ้า จะอยู่แบ่งเป็น สาว Summer กับ สาว Winter ค่ะ  

สำหรับวิธีการเช็คง่ายๆ ว่าเราเป็นสาวฤดูไหน ก็คือการใช้สีในกลุ่มนั้นว่าทาบ เทียบกับหน้าของเราว่ากลุ่มเฉดสีไหนที่ช่วยทำให้หน้าเราดูสว่าง ดูสดใส ในขณะที่ดทนสีในกลุ่มที่ไม่ตรงกับอันเดอร์โทนหรือของเราจะทำให้หน้าดูหมองและขับริ้วรอยต่างๆให้เห็นชัดเจนขึ้น

สาวฤดูใบไม้ผลิ Spring Color

สาวกลุ่มนี้คือสาวที่มีสีผิวโทนเหลือง ผิวสดใส มีเลือดฟาด มีดวงตาสีน้ำตาลอ่อน หรือ น้ำตาลเข้ม ลักษณะจำเพาะคือผิวค่อนข้างจะคล้ำง่าย แต่ก็หายคล้ำไว เหมาะกับเครื่องประดับทองมากกว่าเครื่องประทับเงิน บุคลิกโครงหน้า และบรรยากาศโดยรวมให้ความรู้สึกสดใส ร่าเริง เหมาะกับสีสันโทนอบอุ่น สว่างๆ สดใส

สาวฤดูใบไม้ร่วง Autumn Color

สำหรับสาวผิวโทนเหลืองในกลุ่มนี้จะมีความแตกต่างจากสาวฤดูใบไม้ผลิตรงที่ ผิวจะคล้ำง่ายและหายคล้ำช้ากว่าสาวฤดูใบไม้ผลิ และมักจะเป็นสาวที่มีสไตล์ที่ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่กว่า ดูมีความเป็นธรรมชาติ กระฉับกระเฉง เหมาะกับสีสันโทนอบอุ่น ที่มีเฉดเข้ม มีความตุ่นมากกว่า และสีแนว Earth tone

สาวฤดูร้อน Summer Color

สาวผิวโทนฟ้าในกลุ่มนี้จะมีผิวอมชมพู ดวงตามีสีค่อนไปทางน้ำตาลแดงหรือดำ เมื่อโดนแดดแล้วผิวจะแดงง่าย เหมาะกับเครื่องประดับเงินมากกว่าทอง บุคลิก โครงหน้า และบรรยากาศโดยรวมให้ความรู้แบบผู้หญิงอ่อนโยน ให้ความรู้สึก Feminist ซึ่งเหมาะกับโทนสีสันโทนเย็น เฉดอ่อนๆ หรือหม่นๆ และสีสันแนวพาสเทล

สาวฤดูหนาว Winter Color

สาวผิวโทนฟ้าในกลุ่มนี้จะมีลักษณะจำเพาะตรงที่เมื่อผิวโดนแดดแล้วจะคล้ำขึ้นในเฉดเดิมของผิว แต่จะกลับมาขาวค่อนข้างไว บุคลิกโดยรวมจะให้บรรยากาศและลักษณะที่ดูคม โฉบเฉี่ยว และมีความเท่มากกว่าสาวฤดูอื่นๆ เหมาะกับสีสันโทนเย็น เฉดเข้มๆ หรือสีสันที่มีความสด คมชัด อย่างเฉดสีตระกูลแม่สี

ต้องขอบอกว่าการแบ่งกลุ่มแบบ 4 ฤดูนี้ เป็นเพียงการจัดกลุ่ม Personal Color ขั้นพื้นฐานเท่านั้น ในการหาสีที่เข้ากับเราแบบที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่านี้ จะต้องใช้การจัดแบ่งกลุ่มที่มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 12 หรือ 16 กลุ่ม ที่เพิ่มเรื่องของความมืด-สว่าง ความเข้ม-อ่อนของสี ความสดของสี และค่าเนื้อสีเข้ามาเป็นปัจจัยด้วย


Credit photo : Twitter @eri_pmpm Credit photo : Twitter @eri_pmpm

ซึ่งการเช็ค Personal Color ในระดับนั้นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เฉพาะด้าน และอุปกรณ์ที่เรียกว่า “ผ้าแดรป” ซึ่งเป็นผ้าในโทนสีต่างๆ ที่จะนำมาวางทาบเพื่อดูว่าสีสันแบบไหนเหมาะกับเราบ้าง โดนในปัจจุบันนี้บริการเช็ค Personal Color นั้นเริ่มมีให้บริการในไทยบ้างแล้ว เช่น ที่หน้าร้าน Etude House ค่ะ